วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หมู่เกาะพีพี หมู่เกาะในฝัน ณ กระบี่

หมู่เกาะพีพี หมู่เกาะในฝัน ณ กระบี่

 
หมู่เกาะพีพี กระบี่ แห่งนี้อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ราวๆ 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพีเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมทีชาวทะเลเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” ซึ่งคำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ และคำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสมและโกงกาง ต่อมาก็เรียกกันว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง เสียงเพี้ยนจนกลายเป็น “พีพี" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนมากจะมาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงามอยู่ในทะเลรอบเกาะพีพี กระบี่
หมู่เกาะพีพี กระบี่ ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆก็คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียงก็คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อาจบอกได้ว่า เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล เป็นถึงสุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวหลักเลยก็ว่าได้ เป็นเวิ้งหรืออ่าวใหญ่ที่ภายในนั้นมีหาดทรายขาวสะอาดสวยงามที่น่าเล่นน้ำและดูปะการังเป็นอย่างมาก
เกาะพีพีดอน กระบี่ เองครั้งหนึ่งเคยติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกอีกด้วย เกาะพีพีดอนนั้นเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพีมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวพร้อมอย่าง ที่พัก ร้านอาหาร และอื่นๆที่มีให้บริการอย่างครบครัน รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยเกาะพีพีนั้นประกอบไปด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คืออ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัมคั่นไปด้วยที่ราบเล็กๆร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าว ตลอดทาง

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญบนเกาะพีพี กระบี่
เกาะพีพีดอนเป็นเกาะใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเกาะพีพี ทั้งเรื่องที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทุกอย่างอยู่ที่เกาะแห่งนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามสุดๆ เกาะพีพีดอน ประกอบด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่คือ อ่าวต้นไทรกับกับอ่าวโละดามลัมซึ่งเป็นเวิ้งวงเข้าหากันคั่นด้วยที่ราบเล็กๆร่วมรื่นไปด้วยทิวมะพร้าว เมื่อมองมาจากจุดชมวิวบนยอดเขาจะเห็นได้ถึงความงดงามนี้ที่สร้างชื่อทำให้คนรู้จักเกาะพีพีมานาน การที่จะไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆก็คงขึ้นอยู่กับฤดูกาลเป็นหลัก และช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาท่องเที่ยวเกาะพีพี อยู่ในช่วงที่เดือน กุมภาพันธ์-เมษายน คุณสามารถไปเที่ยวเกาะพีพีได้ทุกจุดรอบเกาะเลย แต่ช่วงเวลาหลังจากนั้น จะไม่สามารถไปได้ทุกจุดรอบเกาะจะไปได้แค่เพียงบางจุดเท่านั้น เพราะติดเรื่องของสภาพอากาศ อย่างไรก็ตามแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะพีพีดอนที่น่าสนใจก็มีอยู่รอบเกาะเลย ลองมาเที่ยวกันนะครับทุกคน เกาะพีพี จ.กระบี่ ยินดีตอนรับ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอื่นอีกมากที่ http://travel.sanook.com/

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตำนานคลองท่าปอม ท่องเที่ยว Unseen กระบี่

ตำนานคลองท่าปอม ท่องเที่ยว Unseen กระบี่

 
คลองท่าปอมแห่งนี้เป็นลำธารสายสั้นๆยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กำเนิดมาจากแอ่งน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ไหลผ่านสระน้ำตรงกลางป่าก่อนที่ไหลลงไปสู่ทะเลอันดามันโดยคลองท่าปอมนั้นอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดิบพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น น้ำในคลองที่จืดสนิทนั้นจะกลายเป็นน้ำกร่อย พอน้ำลงน้ำจืดจากป่าต้นน้ำจะดันน้ำทะเลออกไปหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมกลางเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมารวมกัน มีพื้นที่ราวๆ 300 ไร่ กลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆขึ้นอันชวนพิศวง เพราะนอกจากจะเป็นรอยต่อ 2 น้ำแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดจุดบรรจบของ 3 ป่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนประกอบด้วย ป่าโกงกาง พังกาหัวสุม และไม้พืชป่าชายเลน ได้มาอยู่ร่วมกับชมพู่น้ำ ไม้ป่าพรุได้อย่างกลมกลืน โดยมีหลาวชะโอน ไม้ป่าดิบชื้น
คลองท่าปอมหรือคลองสองน้ำแห่งนี้นั้น มีน้ำใสราวกระจก มองดูเป็นสีเขียวมรกตใสและสวยมาก เนื่องจากมีสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอร์เนตและกำมะถันปะปนอยู่มาก เป็นพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ทั้งระบบนิเวศแบบป่าพรุน้ำจืด แบบป่าดิบ แบบพื้นที่ชุ่มน้ำ และแบบป่าชายเลน จึงได้เป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อยอยู่รวมกันได้
ตำนานคลองท่าปอม

"ท่าปอม" ดินแดนพิศวงแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวอาถรรพณ์ลึกลับ ตามความเชื่อของชาวบ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ท่าปอมตั้งชื่อมาตามท่านโต๊ะครูปอม ผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานที่นี่เป็นครอบครัวแรกเมื่อ 130 กว่าปีที่แล้ว แต่ก็เพราะผืนป่าพรุรอบบริเวณนี้รกทึบ พื้นด้านล่างที่เต็มไปด้วยรากไม้ พูพอน ยากแก่การเดินมาก ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าบริเวณต้นน้ำนั้น คลองท่าปอมใกล้กับสระน้ำกลางป่ามีจระเข้เผือกอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสัตว์ของเจ้าที่เจ้าป่าคอยปกปักรักษาเอาไว้ หากใครล่วงละเมิดฝ่าฝืนจะเกิดอาเพศจนกระทั่งต้องมีอันเป็นไป และหากไม่จำเป็นจริงๆแล้วชาวหนองจิกจะห้ามลูกหลานว่าอย่าเข้าไปใกล้แต่หากจำเป็นต้องไปตักน้ำจืดมาบริโภคในหน้าแล้งนั้น หรือลงเรือไปหาปลา หาอาหารในที่แห่งนี้ ก็ได้อย่าเอาอาหารที่มีเนื้อหมูเข้าไปใกล้เด็ดขาด และหากจะลงอาบน้ำก็ต้องเว้นวันเสาร์และวันอังคารเอาไว้ แม้จะไม่มีใครอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไมเพราะอะไร แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยากจะฝ่าฝืน จะมีก็แต่พวกวัยรุ่นบางกลุ่มก็เท่านั้น ที่หาญกล้าอาศัยความรกเรื้อของป่าพรุท่าปอมแห่งนี้เป็นแหล่งมั่วสุม(เป็นวัยคึกคะนองตามแบบวัยุรุ่น)
แต่เดิมแล้วชาวบ้านถือเป็นพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครเข้าไปในพื้นที่ป่าจนมีชาวบ้านที่เก่งกล้าสามารถและมีอาคมเข้าไปบุกเบิกพื้นที่แห่งนี้และได้ทำไร่ทำสวนในป่า จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์นั้นจึงได้ช่วยกันดูแลปกปักรักษาป่าเอาไว้ อบต. เขาครามโดยการสนับสนุนงบประมาณมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้เป็นสะพานไม้ยกระดับสูง 2 เมตรจากพื้นดิน ทำเป็นวงรอบพื้นที่ป่า ระยะทางราวๆ 700 เมตร และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษารากไม้คดเคี้ยวแตกแขนงแผ่กว้างและปลาน้ำจืดปลาน้ำเค็ม ที่สลับกันไปมาว่ายเวียนหาอาหารระแวกนี้ เป็นที่งดงามและหาดูได้ยากยิ่ง หากเดินทวนกระแสน้ำท่าปอมขึ้นไปนั้นจนถึงไปเขตหวงห้าม จะพบสระน้ำสีไพลินกลางป่าเขียวชอุ่ม เรียกได้ว่าแอ่งท่าปอม หากเดินต่อไปอีก 500 เมตร ก็จะพบแอ่งน้ำลักษณะเดียวกันเรียกว่า สระน้ำช่องพระแก้วท่านสามารถเที่ยวชมคลองสองน้ำแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำเที่ยวชมในเวลาที่น้ำลงน้ำจะสวยใสอย่างมาก
 
 

ติดตามตำนานอื่นๆได้อีกมากที่ http://travel.sanook.com/

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตื่นเต้นกันไปกับ ถ้ำผีหัวโต ถ้ำลอด และน้ำผุดปรบมือ จังหวัด กระบี่

ตื่นเต้นกันไปกับ ถ้ำผีหัวโต ถ้ำลอด และน้ำผุดปรบมือ จังหวัด กระบี่

 
ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลกจังหวัดกระบี่ นั้นอยู่ห่างจากถ้ำลอดโดยประมาณ 500 เมตร ที่ได้มีชื่อว่า ถ้ำหัวกะโหลก เนื่องจากแต่เดิมนั้นภายในถ้ำเคยมีหัวกะโหลกมนุษย์ที่มีขนาดโตกว่าปกติ นอกจากนี้บนผนังถ้ำนั้นยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์เป็นจำนวนมาก อาทิรูปคน รูปสัตว์ ระหว่างสองข้างทางจะเป็นป่าชายเลน ป่าโกงกางที่ยังคงอุดมสมบรูณ์อยู่มากและเราจะได้เห็นกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านอยู่เป็นระยะๆ สำหรับไฮไลท์ของถ้ำผีหัวโตนั้นก็คือ ภาพเขียนโบราณอายุนับพันปี จังหวัดกระบี่


ถ้ำผีหัวโต
ถ้ำผีหัวโตจังหวัดกระบี่ นั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขาเตี้ยๆลูกหนึ่งซึ่งถูกแวดล้อมไปด้วยป่าโกงกางที่สามารถเดินทางไปถึงได้ด้วยการล่องเรือ มีลักษณะเป็นคูหาขนาดใหญ่ 2 คูหาที่เชื่อมต่อกัน มีแสงสว่างตลอดทั้งวัน มีจุดเด่นคือรูปวาดที่ผนังถ้ำเป็นภาพเขียนสีที่มีอายุนับพันปีอันมีคุณค่าด้านประวัติศาสตร์ เช่น รูปคน รูปสัตว์ มือ เท้า ฯลฯ ภาพที่เห็นคือภาพคล้ายมนุษย์ต่างดาทำให้มีข้อสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือไม่ นอกจากนั้นก็คือหินงอกหินย้อยที่จัดว่างดงามมาก เป็นทั้งเรื่องราวในอดีตและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอยู่ในถ้ำผีหัวโต จังหวัดกระบี่

ถ้ำลอด
ถ้ำลอดและ ถ้ำผีหัวโต นั้นอยู่ห่างกันจากอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ประมาณ 6 กิโลเมตร เดินทางไปทางอำเภออ่าวลึก ไปตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ 2 กิโลเมตร แยกขวาไปยังท่าเรือบ่อท่อ แล้วก็ลงเรือหางยาวรับจ้างไปตามลำคลองท่าปรัง ผ่านป่าชายเลนไปประมาณ 15 นาที ถ้ำลอด เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน บนเพดานถ้ำนั้นจะมีหินงอกและหินย้อยรูปร่างต่างๆกันแลดูชวนถ่ายรูปด้วย

น้ำผุดปรบมือ
น้ำผุดปรบมือนั้นเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กในเขตบ้านถ้ำเสือ เป็นแอ่งน้ำที่มีแรงดันผุดขึ้นมาจากใต้พื้นโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าลองเอามือแหย่ลงไปดูก็จะสัมผัสได้ถึงแรงดันใต้พิภพได้ด้วยมือของคุณเอง และที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นนั่นก็คือหากปรบมือดังๆ อัตราการผุดของน้ำก็จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นอย่างน่าทึ่ง จนถูกเรียกขานกันว่า “น้ำผุดปรบมือ” มาเที่ยวกันได้ จังหวัดกระบี่

ติดตามสภนที่ท่องเที่ยวแปลกตาแปลกใจใหม่ๆอีกที่ http://travel.sanook.com/

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สเน่ห์แห่งอันดามัน จ.กระบี่

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สเน่ห์แห่งอันดามัน จ.กระบี่

มารู้จักข้อมูลของสถานที่กันก่อนเลย
คำว่า "ลันตา" นั้นแผลงมาจากคำว่า "ลันตัส" ซึ่งเป็นภาษาชวามีความหมายว่า "ผลาย่างปลา" คงสงสัยแล้วใช่ไหมว่ามันคืออะไรกันแน่? ....เฉลยมันก็คือที่ย่างปลาที่สร้างด้วยไม้รูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูงขึ้นคล้ายกับโต๊ะ จุดไฟไว้ข้างล่างแล้วจึงเผาปลาที่เรียงไว้ข้างบนนั่นเอง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติอยู่ทางทะเลตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน อันประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อยที่สวยงามจำนวนมาก ทั้งอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าชายหาด ป่าชายเลน แนวเขตปะการังที่อุดมสมบูรณ์และหาดทรายรอบๆเกาะต่างๆ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาแห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 83,750 ไร่ หรือ 134 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 25 เกาะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มอันได้แก่
 
กลุ่มเกาะรอก ประกอบไปด้วย เกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งเกาะรอกในมีภูมิประเทศทั่วไปเป็นหินผาสูงชันและมีโขดหินที่ถูกกัดกร่อนมาเป็นเวลานานอยู่ทางทิศเหนือ ส่วนด้านที่หันสู่ทิศตะวันตกเป็นหน้าผาทอดยาว ด้านหน้าของเกาะนั้นมีความยาวประมาณ 2.4 กิโลเมตร ยอดเขาที่สูงที่สุดจะมีความ สูง 208 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเกาะรอกนอกจะเป็นเกาะที่มีขนาดใกล้เคียงกับเกาะรอกใน ยอดเขาที่สูงที่สุด มีความสูงสูง 156 เมตรจากระดับน้ำทะเลบริเวณระหว่างช่องเขาจะมีที่ราบขนาดกว้างอยู่ 2 แห่งคือ ช่องเขาหาดทะลุและอ่าวม่านไทร
กลุ่มเกาะห้า (เกาะตุกนลิมา) และเกาะหินแดง กลุ่มเกาะห้าแห่งนี้ประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ 5 เกาะ มีที่ราบเล็กน้อยบนยอดเขาของเกาะที่มีพื้นที่มาก 2 เกาะ และอีก 3 เกาะที่เหลือจะมีลักษณะเหมือนหินโผล่จากพื้นน้ำไม่มีพื้นที่ราบ
กลุ่มเกาะไหง แห่งนี้ประกอบไปด้วย เกาะไหง และเกาะม้า ด้านหน้าเกาะทางทิศตะวันออกของเกาะไหงจะประกอบด้วยหาดทรายยาวเหยียด ทิศใต้จะลักษณะเป็นอ่าว ด้านตะวันตกตอนเหนือจะมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน สำหรับเกาะม้าจะมีลักษณะเหมือนหินโผล่จากพื้นน้ำ ไม่มีพื้นที่ราบ
กลุ่มเกาะลันตา แห่งนี้ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยจำนวน 16 เกาะ อันได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะตะละเบ็ง เกาะไม้งาม เป็นต้น ลักษณะของเกาะจะเป็นภูเขาสลับซับซ้อนกันและค่อนข้างลาดชัน ที่ราบปรากฏเฉพาะบริเวณชายหาดทางตอนใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นจะมีความลาดชัน สำหรับเกาะอื่นๆจะมีสภาพเป็นโขดหินสูงชันไม่มีที่ราบปรากฏ มีลักษณะธรณีของบริเวณเกาะไม้งาม เกาะไม้งามใต้ จะมีลักษณะเป็นตะกอนน้ำพา ตะกอนชะวากทะเลและตะกอนที่ลุ่มที่ราบชายเลน
และสำหรับบริเวณเกาะร่าปูพัง เกาะลาปูเล และเกาะตะละเบ็ง จะมีทางน้ำไหลอยู่หลายแห่งแต่มักขาดน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยมีลำธารเพียงแค่ 3 สาย ที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดปี ได้แก่ คลองจาก คลองน้ำจืด และคลองนิน นั่นเอง

ติดตามการท่องเที่ยวอีกมากได้ที่ http://travel.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตะลึงในความงาม อลังการให้ความดัง อ่าวมาหยา ภูเก็ต

ตะลึงในความงาม อลังการให้ความดัง อ่าวมาหยากระบี่

อ่าวมาหยา เกาะพีพี กระบี่ แห่งนี้เกิดขึ้นด้วยกระบวนการเดียวกันกับอ่าวปิเละแต่ส่วนหนึ่งของหน้าผาที่โอบล้อมพังทลายจนกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเลภายนอก น้ำทะเลนั้นไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างชายฝั่งไกลหลายสิบกิโลเมตร ตะกอนที่มาจากอ่าวพังงานั้นมีอิทธิพลน้อยมาก น้ำทะเลใสแจ๋วช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับที่เหมาะสม ตัวอ่อนปะการังที่ได้ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณก็พากันไปเกาะบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว เมื่อยึดที่มั่นได้แต่ละตัวก็จะสืบพันธุ์กันแบบไม่อาศัยเพศแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสี่และเมื่อเวลาผ่านไปหลายพันปีแนวปะการังก็ขยายขนาดปกคลุมไปทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกันกับที่ทะเลได้มีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังคงเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันจนกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยนั้นมากับน้ำบ้างมากับสัตว์ต่างๆบ้างเจริญงอกงามจนกลายเป็นป่าชายหาดที่กินพื้นที่ตอนในของอ่าวไปประมาณ ๕๐ ไร่
เวิ้งอ่าวมาหยามีพื้นที่หลบอยู่ในภูเขาหินความยาวประมาณ ๒๕๐ เมตรนั้นส่วนหนึ่งถูกตกแต่งโดยธรรมชาติให้มาเป็นพื้นที่หาดทรายที่กว้างประมาณ ๕-๑๕ เมตร ทันทีที่ก้าวลงจากเรือและย่ำลงไปบนพื้นหาดทรายนั้นจะรู้สึกได้ว่าหาดทรายผืนเล็กผืนนี้มันช่างนุ่มเท้าและขาวสะอาดซธเหลือเกิน ถึงขนาดต้องหลับตาให้ม่านตาได้ทุเลาลงจากแสงแดดที่ส่องแสงสะท้อนขึ้นมากระทบบ้างในบางครั้ง และหากลองย้อนกลับไปความผ่องใสพิสุทธิ์ เนื้อทรายที่เป็นปุยนุ่มนวลเท้าของหาดทรายแห่งนี้ ล้วนแล้วเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่เกิดจากซากของปะการังที่ได้ถูกทำลายจนย่อยยับแหลกละเอียดเป็นชิ้นๆจนแทบเป็นผงตามวัฏจักรแห่งธรรมชาติ ในท้ายที่สุดแล้วถึงจะถูกเกลียวคลื่นสาดซัดขึ้นมากองทับถมกันมานานนับแรมปี
และได้มีการเดินทางเข้ามาถ่ายมาทำภาพยนตร์ของทีมงานต่างประเทศเรื่อง “เดอะบีช” ได้กลายเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะสื่อมวลชนแทบจะทุกแขนงได้พากันนำเสนอข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ออกไป ยิ่งกว่านั้นการกำหนดตัวนายลีโอนาโอ ดิ คาปิโอ ที่ได้เขย่าโลกในบทของ “แจ็ค” จากภาพยนตร์เรื่อง “ไททานิค” ให้เป็นตัวพระเอกยิ่งทำให้ข่าวดังกล่าวลุกกระพือจนกลายเป็นที่สนใจของประชาชน ด้วยความงดงามของหาดและความโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง “เดอะบีช” ทำให้ในแต่ละวันได่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากมายสายฟเาแลบ
ติดตามสถานที่เด่นดังมากมายอีกที่นี่ http://travel.sanook.com/

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มาทำความรู้จัก..วัดถ้ำเสือ..อำเภอเมือง..จังหวัดกระบี่กัน

มาทำความรู้จัก..วัดถ้ำเสือ..อำเภอเมือง..จังหวัดกระบี่กัน

 
วัดถ้ำเสือจังหวัดกระบี่ห่างจากตัวเมืองกระบี่โดยประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่เขตพื้นที่บ้านถ้ำเสือ ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่บริเวณวัดประมาณ 200 ไร่โดยประกอบไปด้วยพื้นที่ราบ หุบเขาและยอดเขา ชื่อวัดแห่งนี้นั้นมีข้อสันนิษฐานกันว่าเนื่องจากในอดีตนั้นเคยมีเสือมาอาศัยอยู่และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติที่เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ และในส่วนที่มาของวัดนี้ก็น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อที่จะหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำต่างๆและมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก จนกลายมาเป็นวัดในเวลาต่อมานั่นเอง
สภาพทั่วไปของวัดถ้ำเสือแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นสวนป่าเป็นโพรงถ้ำที่มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติอยู่มาก เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำลอด ถ้ำพระ เป็นต้น ถ้ำบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดนั้นยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางในการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก อุบาสิกาได้อีกตักหาก ภายในบริเวณวัดทัศนียภาพจะให้ความร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุนับร้อยนับพันปีขึ้นไปเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกมุมด้าน บริเวณนี้นอกจากจะเป็นสถานที่วิปัสสนาแล้วยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีความสำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และก็สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ เพราะมีการขุดพบวัตถุโบราณหลากหลายอย่าง เช่น เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ เครื่องมือหิน ที่บริเวณพื้นที่ราบด้านหน้าที่เป็นที่ตั้งของอุโบสถ พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม หอประชุม และสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย

จุดเด่นของวัดถ้ำเสือแห่งนี้
1.พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว

ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลแยู่ประมาณ 600 เมตร สามารถขึ้นไปสักการะได้โดยขึ้นบันได 1,200 ขั้น บนยอดเขาสามารถมองจะสามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศทาง ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลองนั่นเอง

2.พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ 

มีความสูงอยู่ที่ 90 เมตร
3.หุบเขาคีรีวงศ์

ภายในหุบเขานั้นแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปี และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน จึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่เป็นจำนวนมากมาย เช่น ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำพระ ฯลฯ สามารถเดินทางเข้าไปชมได้โดยการขึ้นและลงบันไดที่อยู่บริเวณพระตำหนักเจ้าแม่กวนอิม
4.พระโพธิสัตว์กวนอิม

เป็นเอกลักษณ์และเป็นสถานที่ที่นิยมชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือการที่ได้มาแวะสักการะขอพรกันนั่นเอง

5.พระพุทธรูปหยกขาว

ศิลปะพม่าเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปี

มีฝูงลิงป่ามากมายเนื่องจากวัดถ้ำเสือมีลักษณะเป็นสวนป่า จึงทำให้มีสภาพแวดล้อมที่มีแต่แมกไม้ ถ้ำและต้นไม้น้อยใหญ่เก่าแก่กว่าร้อยปี จึงได้เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของวัดถ้ำเสือ สามารถชมและสัมผัสความเป็นอยู่ของฝูงลิงป่าอย่างใกล้ชิด แต่ต้องระวังมันนิดนึงนะ


การเดินทาง

ออกจากตัวเมืองกระบี่ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกตลาดเก่าโดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เส้นทางของอำเภอเหนือคลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกถ้ำเสือไปตามถนนราษฎรพัฒนา (ทางหลวงหมายเลข 4037) ตรงไปประมาณอีก 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจนบอกอยู่

ติดตามที่เที่ยวต่อที่ http://travel.sanook.com/

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เกาะรอก ความงดงามที่อยากให้ลองมาสัมผัส จ.กระบี่

เกาะรอก ความงดงามที่อยากให้ลองมาสัมผัส จ.กระบี่

เกาะรอก แห่งนี้ตั้งอยู่ที่น่านน้ำทะเลกระบี่ ที่เชื่อมต่อกับทะเลตรัง มีลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งไว้คู่กันเป็นเกาะที่มีชายหาดที่ยาวเหยียด และเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อย ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน และ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากๆอีกจุดหนึ่ง ทางด้านทิศตะวันออกก็จะมีชายหาดและแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามแนวโขดหิน ทางด้านทิศเหนือของเกาะจะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า พื้นทรายที่เกาะรอกในจะมีความละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสมองเห็นเป้นสีเขียวทะลุไปจนมองเห็นปลาหลากสีสัน นับเป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ ไม่ค่อยมีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก

ติดตามสถานที่น่าสนใจใหม่ๆที่นี่ http://travel.sanook.com/