วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตำนานคลองท่าปอม ท่องเที่ยว Unseen กระบี่

ตำนานคลองท่าปอม ท่องเที่ยว Unseen กระบี่

 
คลองท่าปอมแห่งนี้เป็นลำธารสายสั้นๆยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กำเนิดมาจากแอ่งน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ไหลผ่านสระน้ำตรงกลางป่าก่อนที่ไหลลงไปสู่ทะเลอันดามันโดยคลองท่าปอมนั้นอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดิบพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น น้ำในคลองที่จืดสนิทนั้นจะกลายเป็นน้ำกร่อย พอน้ำลงน้ำจืดจากป่าต้นน้ำจะดันน้ำทะเลออกไปหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมกลางเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมารวมกัน มีพื้นที่ราวๆ 300 ไร่ กลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆขึ้นอันชวนพิศวง เพราะนอกจากจะเป็นรอยต่อ 2 น้ำแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดจุดบรรจบของ 3 ป่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนประกอบด้วย ป่าโกงกาง พังกาหัวสุม และไม้พืชป่าชายเลน ได้มาอยู่ร่วมกับชมพู่น้ำ ไม้ป่าพรุได้อย่างกลมกลืน โดยมีหลาวชะโอน ไม้ป่าดิบชื้น
คลองท่าปอมหรือคลองสองน้ำแห่งนี้นั้น มีน้ำใสราวกระจก มองดูเป็นสีเขียวมรกตใสและสวยมาก เนื่องจากมีสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอร์เนตและกำมะถันปะปนอยู่มาก เป็นพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ทั้งระบบนิเวศแบบป่าพรุน้ำจืด แบบป่าดิบ แบบพื้นที่ชุ่มน้ำ และแบบป่าชายเลน จึงได้เป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อยอยู่รวมกันได้
ตำนานคลองท่าปอม

"ท่าปอม" ดินแดนพิศวงแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวอาถรรพณ์ลึกลับ ตามความเชื่อของชาวบ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ท่าปอมตั้งชื่อมาตามท่านโต๊ะครูปอม ผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานที่นี่เป็นครอบครัวแรกเมื่อ 130 กว่าปีที่แล้ว แต่ก็เพราะผืนป่าพรุรอบบริเวณนี้รกทึบ พื้นด้านล่างที่เต็มไปด้วยรากไม้ พูพอน ยากแก่การเดินมาก ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าบริเวณต้นน้ำนั้น คลองท่าปอมใกล้กับสระน้ำกลางป่ามีจระเข้เผือกอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสัตว์ของเจ้าที่เจ้าป่าคอยปกปักรักษาเอาไว้ หากใครล่วงละเมิดฝ่าฝืนจะเกิดอาเพศจนกระทั่งต้องมีอันเป็นไป และหากไม่จำเป็นจริงๆแล้วชาวหนองจิกจะห้ามลูกหลานว่าอย่าเข้าไปใกล้แต่หากจำเป็นต้องไปตักน้ำจืดมาบริโภคในหน้าแล้งนั้น หรือลงเรือไปหาปลา หาอาหารในที่แห่งนี้ ก็ได้อย่าเอาอาหารที่มีเนื้อหมูเข้าไปใกล้เด็ดขาด และหากจะลงอาบน้ำก็ต้องเว้นวันเสาร์และวันอังคารเอาไว้ แม้จะไม่มีใครอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไมเพราะอะไร แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยากจะฝ่าฝืน จะมีก็แต่พวกวัยรุ่นบางกลุ่มก็เท่านั้น ที่หาญกล้าอาศัยความรกเรื้อของป่าพรุท่าปอมแห่งนี้เป็นแหล่งมั่วสุม(เป็นวัยคึกคะนองตามแบบวัยุรุ่น)
แต่เดิมแล้วชาวบ้านถือเป็นพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครเข้าไปในพื้นที่ป่าจนมีชาวบ้านที่เก่งกล้าสามารถและมีอาคมเข้าไปบุกเบิกพื้นที่แห่งนี้และได้ทำไร่ทำสวนในป่า จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์นั้นจึงได้ช่วยกันดูแลปกปักรักษาป่าเอาไว้ อบต. เขาครามโดยการสนับสนุนงบประมาณมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้เป็นสะพานไม้ยกระดับสูง 2 เมตรจากพื้นดิน ทำเป็นวงรอบพื้นที่ป่า ระยะทางราวๆ 700 เมตร และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษารากไม้คดเคี้ยวแตกแขนงแผ่กว้างและปลาน้ำจืดปลาน้ำเค็ม ที่สลับกันไปมาว่ายเวียนหาอาหารระแวกนี้ เป็นที่งดงามและหาดูได้ยากยิ่ง หากเดินทวนกระแสน้ำท่าปอมขึ้นไปนั้นจนถึงไปเขตหวงห้าม จะพบสระน้ำสีไพลินกลางป่าเขียวชอุ่ม เรียกได้ว่าแอ่งท่าปอม หากเดินต่อไปอีก 500 เมตร ก็จะพบแอ่งน้ำลักษณะเดียวกันเรียกว่า สระน้ำช่องพระแก้วท่านสามารถเที่ยวชมคลองสองน้ำแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำเที่ยวชมในเวลาที่น้ำลงน้ำจะสวยใสอย่างมาก
 
 

ติดตามตำนานอื่นๆได้อีกมากที่ http://travel.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น